เล่าเรื่อง จากสิ่งที่เรารู้

เล่าเรื่อง จากสิ่งที่เรารู้ ...มุมหนึ่งฟาร์ม
 

ประสบการณ์จากเชื้อไวรัสหัดในสุนัข สู่เชื้อโควิต 19 ในคน ซึ่งเป็นความตื่นตระหนกของคนในทุกวันนี้กันไปทั้งโลกแล้ว กับการแพร่กระจายของเชื้ออย่างรวดเร็ว แม้อัตราการตายจะไม่สูงนัก ในเชื้อไวรัสโควิตในคน แต่จากประสบการณ์การผ่านวิกฤตเชื้อไวรัสหัดในสุนัขนั้น บอกได้เลยว่าถ้าได้ติดแล้วมันเลวร้ายมาก อัตราการตายนั้นเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์กันเลย ถ้ารอดก็พิกลพิการ ไม่อยู่ในสภาพที่ปกติเลย มาเรียนรู้กันเลยว่าเป็นอย่างไร บางครั้งอาจใช้ป้องกันตัวเอง จากโควิตบ้างก็ได้ ...
...สาเหตุขอโรคหัดในสุนัขก็มาจากการสัมผัสน้ำลาย น้ำมูก หรืออึ และฉี่ จากตัวที่มีเชื้อนี้อยู่แล้ว การเพาะเชื้อก็อยู่ในระยะ 7-14 วันเช่นกัน ที่โรคนี้จะแสดงออกมาให้ได้เห็นอาการ และแพร่สู่ตัวอื่นได้ และก่อนหน้าที่จะแสดงอาการให้เห็นก็สามารถแพร่เชื้อสู่ตัวอื่นที่สัมผัสสารคัดหลั่งดังกล่าวได้เช่นกัน
ส่วนอาการนั้นแสดงออกได้หลายแบบมาก สุดแล้วแต่เชื้อนั้นจะไปสู่ที่ใด ถ้าลงสู่ปอด ก็จะมีน้ำมูกมาก หายใจไม่ออก ทุรนทุรายอย่างมากจะเสียชีวิตภายใน 3-7 วัน ส่วนถ้าขึ้นสู่สมอง จะเสียการทรงตัว ไม่สามารถเดินปกติได้เลย และจะเสียชีวิตภายใน 2-5 วัน อย่างที่สามคือไปสู่ทางเดินอาหารอันนี้คล้ายกับลำไส้อักเสบ แต่จะรุนแรงกว่า เพราะจะช็อคและเสียชีวิต ไม่เกิน สามวัน ส่วนอีกทางหนึ่งคือเข้าสู่หัวใจ อันนี้ไม่แน่ใจนัก แต่ไม่มีอาการอะไรเลย รวดเร็วมาก เสียชีวิตชั่วข้ามคืนเลย และนี้คืออาการที่พบเจอในโรคหัดสุนัข ซึ่งส่วนใหญ่นั้นจะเจอในลูกสุนัข และสุนัขที่ไม่แข็งแรงเท่านั้น
เนื่องจากสุนัขที่แข็งแรงปกติ จะมีภูมิคุ้มกันในร่างกายต่อต้านเชื้อโรคนี้ออกจากร่างกายได้เอง โดยแทบไม่ต้องรักษาอะไรเลย อาจจะใช้ยารักษาเล็กน้อยตามอาการเพื่อช่วยบรรเทา ให้ร่างกายสร้างภูมิต่อต้านได้เร็วขึ้น และจะหายเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจากการศึกษาเชื้อไวรัสโควิตในคนทุกวันนี้ก็น่าจะใกล้เคียงกัน คือถ้าร่างกายแข็งแรง ไม่ไปสัมผัสสารคัดหลั่งจากผู้ที่มีเชื้ออยู่ หรือเมื่อเราต้องสัมผัสในที่ที่ไม่มั่นใจ ก่อนที่จะสัมผัส บริเวณใบหน้าตัวเองก็ ล้างมือให้สะอาดทั่วเสียก่อน เพราะจากการสังเกต ในสุนัข เชื้อไวรัสนั้น ไม่สามารถติดทางอากาศได้ถ้าร่างกายเราแข็งแรงพอ แต่ก็อีกนั่นแหละจากประสบการณ์ในสุนัขนั้นจุดเริ่มก็เกิดจากการระบาดในหมู่บ้านนอกฟาร์ม แต่แล้วเมื่อทำวัคซีนลูกสุนัขในฟาร์ม โรคกับเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัวเลย จึงไม่สามารถบอกได้ว่า มันมาทางอากาศได้ด้วยหรือเปล่า แต่ที่แน่ใจคือสุนัขที่ไม่ได้รับวัคซีนไม่เป็นอะไร และสามารถอยู่ได้อย่างปกติ แม้ในแม่ที่ต้องเลี้ยงลูกที่ติดเชื้อ โอกาสที่ติดเชื้อก็มีไม่มากนัก
ส่วนการรักษานั้น ถ้าไปสู่ทางเดินอาหารรักษาคล้ายกับโรคลำไส้อักเสบ มีโอกาสรอดสูง และกลับมากปกติได้ ส่วนถ้าไปที่ปอด สมอง หัวใจ ไม่สามารถรักษาได้เลย เพียงแต่คุมไม่ให้แพร่ต่อไปสู่ตัวที่ยังไม่มีเชื้อได้แค่นั้น ทางที่ดีที่สุดของโรคนี้คือการป้องกันด้วยการทำวัคซีน ตามกำหนด ให้ถูกต้อง ในสุนัขที่แข็งแรง และไม่มีความเสี่ยงในเชื้อโรค เพราะถ้าเสี่ยงมีเชื้อแล้ว ทำวัคซีน จะทำให้เชื้อโรคนี้ร้ายแรงทวีคูณกันเลย
สัปดาห์นี้ก็เลยเอาประสบการณ์ ที่ได้สัมผัสและผ่านมาได้มาเล่าสู้กันฟัง เพื่อจะได้เป็นแนวทาง และไม่ทำให้เราตื่นตระหนกกันมากนัก แม้ว่ารอบข้างเราจะมีผู้ติดเชื้อ แต่เรารักษาร่างกายให้แข็งแรง กินอาหารถูกสุขลักษณะ หมั่นทำความสะอาดร่างกาย ใช้ชีวิตอย่างมีสติ มันก็จะผ่านพ้นไปได้อย่างปลอดภัย เพราะเชื้อโรคมันก็เป็นเหมือนอากาศมันผ่านมา และก็ผ่านไป ไม่อยู่กับเราตลอดหลอก ...สวัสดี